
แม้ว่าเทรนด์การใช้งานเงินดิจิทัลยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจด้วยร้านค้าที่เปิดรับเงินดิจิทัลมากขึ้น หรือยกเลิกรับชำระด้วยเงินดิจิทัลก็มีบ้างเช่นเดียวกัน รวมทั้งธุรกรรมที่ได้รับความนิยมอย่าง การลงทุนในบิทคอยน์ที่ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อในระยะยาว ด้วยราคาที่ขึ้นสูง และลงต่ำกว่าครึ่งเท่าตัวในระยะเวลาไม่กี่เดือน
แต่ก็อย่างที่ทราบกันว่า เงินดิจิทัล (Cryptocurrency) นั้นยังไม่ได้มีการรองรับด้วยกฎหมายในประเทศไทย ทำให้ความเสี่ยงมีสูงในการลงทุนหรือทำธุรกรรม
ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศเรื่อง ขอความร่วมมือสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) ถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง ไม่ให้บริการที่เกี่ยวข้องใน 5 กรณี ดังนี้
1.ไม่เข้าไปลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล (ไม่ว่าจะเพื่อผลประโยชน์ของสถาบันการเงิน หรือลงทุนให้ลูกค้า)
2.ไม่ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลผ่านช่องทางของสถาบันการเงิน
3.ไม่สร้างแพลตฟอร์มให้ลูกค้าเข้าถึงเงินดิจิทัล
4.ไม่อนุญาตให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตซื้อเงินดิจิทัล
5.ไม่สนับสนุนหรือให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในเงินดิจิทัล
โดยนอกจากนี้ยังคงให้สถาบันการเงินยึดถือการรู้จักตัวตนของลูกค้าเป็นหลัก (เนื่องจากเงินดิจิทัลไม่สามารถระบุเส้นทางการเงินได้) รวมทั้งเฝ้าระวังในการฝากเงินหรือเปิดบัญชี เพื่อใช้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมด้านเงินดิจิทัลด้วยครับ
ที่มา : bot.or.th