
Guy Kawasaki เคยกล่าวว่า “Ideas are easy, implementation is hard.” “คิดนั้นง่าย ลงมือทำนั้นยากกว่า” การสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น คุณจะต้องมีทั้งความกล้า, ความรัก, ความอดทน, ความพยายาม และจิตวิญญาณของนักสู้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเกือบ 90% ของผู้เริ่มต้นธุรกิจจึงประสบความล้มเหลว
ใน Silicon Valley เจ้าของธุรกิจจะไม่จมอยู่กับความล้มเหลว ตรงกันข้าม พวกเขาแทบจะเฉลิมฉลองด้วยซ้ำ เมื่อก้าวพลาด ต่างจากโลกตะวันออกของเรา ที่มักจะเก็บสิ่งเหล่านี้มาเป็นแรงกดดัน ทำให้หลายๆ คนไม่กล้าลุกขึ้นสู้ ความล้มเหลวที่นักธุรกิจในโลกตะวันตกเจอ อาจจะทำให้เขาได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น เมื่อเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เพราะนักลงทุนจะรู้สึกว่าเจ้าของธุรกิจเหล่านี้ได้รับบทเรียนจากความผิดพลาดแล้ว และเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
เรามาดูจุดเริ่มต้นของ 4 ธุรกิจที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ ที่ตอนเริ่มต้นธุรกิจของพวกเขาอาจจะดูดีนัก แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี เชื่อว่าเรื่องราวที่เรามานำเสนอ อาจจะช่วยจุดไฟในตัวคุณให้ลุกโชน ในอนาคตคุณอาจเป็นหนึ่งคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็ได้
Angry Birds
ในช่วงปี 2000 กลุ่มหลงใหลการเล่นเกมในฟินแลนด์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนความรักของพวกเขาเป็น บริษัท วิดีโอเกม ด้วยความหวังว่า หนึ่งในเกมของพวกเขาจะกลายเป็นเกมยอดฮิต ผ่านไป 6 ปี เกมที่พวกเขาผลิตมาทั้งหมด 51 เกมนั้น ไม่สามารถดึงดูดนักเล่นเกมให้มาติดตามได้เลย จนในที่สุด 6 ปีที่ว่างเปล่านั้นก็ได้หมดไป ด้วยความอดทนและความเพียรพยายามของพวกเขาในที่สุดก็สัมฤทธิ์ผล พวกเขาออกเกมที่ 52 ซึ่งเป็นเกมก็คือเกมยอดฮิต Angry Birds ที่หลายๆ คนติดกันงอมแงม จนได้รับความนิยมสูงสุดอยู่พักใหญ่ ผู้ใช้กว่าพันล้านคนสนุกกับเกมนี้
YouTube
Steven Chen หนึ่งในพนักงานของ Facebook ที่ตัดสินใจลาออก และเริ่มต้นกิจการของตัวเอง ด้วยภาพในหัวของเขาคือ มันต้องเป็นพื้นที่สำหรับวิดีโอ โดยไอเดียนี้เกิดขึ้นตอนที่ Matt Cohle อยู่กับ Facebook และแน่นอนทาง Facebook ไม่ยอมซื้อไอเดียของเขา และยังบอกกับ Matt Cohle อีกว่า ถ้าคุณทำเช่นนี้คุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตของคุณ ด้วยความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยว เขาเริ่มทำ YouTube ของเขาเอง หลังจากนั้นยักษ์ใหญ่อย่าง Google ก็ตัดสินใจซื้อกิจการในปี 2006 ด้วยเงิน 1,600 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 4 หมื่น 8 พันล้านบาท เลยทีเดียว
Lamborghini
เกษตรกรและช่างซ่อมเครื่องยนต์ชาวอิตาเลียนชื่อ Ferruccio เจ้าของโรงงานรถแทรกเตอร์ เขาซื้อรถ Ferrari มาใช้ แต่พบปัญหาบางอย่าง และพยายามซ่อมด้วยตัวเองจนพบว่าเฟอร์รารีใช้ระบบคลัทช์ที่มีคุณภาพต่ำ เมื่อเทียบกับรถแทรกเตอร์ เขาจึงคอมเพลนกับเจ้าของบริษัท Ferrari โดยตรง แต่กลับได้รับการดูถูกว่า เป็นแค่ชาวนา และปัญหาไม่เกิดที่รถ มันเกิดจากคนที่ใช้ การดูถูกนี้ทำให้ Ferruccio อยากแก้แค้นคืน ด้วยการทำรถที่ดีกว่าเพื่อเอาชนะ Ferrari และเขาก็ทำสำเร็จ เขาสร้างรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และทำรายได้สูงกว่า Ferrari โดยเขาใช้นามสกุลของตัวเองในการตั้งชื่อแบรนด์นั่นก็คือ Lamborghini
ฮอนด้า
Soichiro Honda ช่างอู่ซ่อมรถในอู่แห่งหนึ่ง เขามีหน้าที่ปรับจูนและเตรียมเครื่องยนต์ให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน ในปี 1937 เขาเริ่มต้นธุรกิจผลิตวงแหวนลูกสูบ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นซัพพลายเออร์ทำลูกสูบให้กับรถยนต์ของโตโยต้า แต่บริษัท ยกเลิกสัญญาภายหลังเนื่องจากลูกสูบของเขามีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ด้วยความที่เขาไม่ยอมแพ้ เขาจึงเดินทางเยี่ยมชมโรงงานทั่วญี่ปุ่น และดูกระบวนการการควบคุมคุณภาพของฮอนด้า และเขาก็ได้รับเลือกอีกครั้ง หลังจากนั้นโตโยต้าจึงเข้ามาถือหุ้นร้อยละ 40 ในบริษัท ของเขา แต่ไม่นานโชคร้ายก็เกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง โรงงานแห่งหนึงของเขาถูกทำลายด้วยระเบิดของกองทัพสหรัฐฯ และเกิดแผ่นดินไหวอีก ดังนั้นเขาขายหุ้นที่เหลือให้กับ บริษัท โตโยต้า และใช้เงินทุนที่ได้มาเพื่อก่อตั้งสถาบันวิจัยทางเทคนิคของฮอนด้าในเดือนตุลาคมปี 1946 จากนั้นฮอนด้าก็กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
ที่มา http://e27.co/do-you-know-how-angry-birds-youtube-lamborghini-came-about-20150514/